งามคักงามหลาย "ลูกน้ำ" ซุป'ตาร์สาวลาวที่กำลังฮอตสุดๆ ในตอนนี้ ล่าสุดกับนางเอกหนังรักคอมเมดี้ "หงส์หามเต่า (ข้อยตั๊วะเจ้า เฮาฮักกัน)" ที่กระแสเปรี้ยงปร้าง กวาดรายได้ถล่มทลายในลาว
ดังจนข้ามประเทศมาฉายที่ไทย และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่อาจทำให้ตกหลุมรักสาวลาวคนนี้โดยไม่รู้ตัว เพราะนอกจากความสวยหวานละมุนแล้ว ความคิด และหัวใจก็สวยไม่แพ้กัน
กว่าจะเป็น "ซุป'ตาร์" ลาว
"มิสลาวปี 2011" คือตำแหน่งแจ้งเกิดของ "ลูกน้ำ ทิดาลัด วงสิหลิ" ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบ และนางเอกที่ฮอตสุดๆ ในประเทศลาว
"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ มีงาน มีอีเวนต์เข้ามาบ้าง" สาวลาวถ่อมตัว "ตอนนี้ก็มีหนังเรื่องแรกในชีวิตชื่อว่าหงส์หามเต่าที่อยากให้ทุกคนได้ดู เพราะที่ลาวดังมากๆ คนแห่ไปดูกันเยอะมาก ทำรายได้สูงสุดในปีนี้เลยนะ 1,200 ล้านกีบก็ประมาณเกือบๆ 5 ล้านบาทไทย ซึ่งเป็นหนังรักคอมเมดี้หลายอารมณ์ เข้าโรงแล้วในหลายจังหวัดภาคอีสานของไทย ถ้ากระแสดีคนกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ ก็คงจะได้ดูกัน (ยิ้มหวาน)"
กว่าจะมีวันนี้ ระหว่างทางในการเป็น "ดาว" ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากับคนอื่นๆ ทั้งความสุขสบายในครอบครัว ความสุขสบายในการใช้ชีวิต "เล่าแล้วก็จะร้องไห้ค่ะ" นางเอกสาวยิ้มปนเศร้า เพราะชีวิต "ต้องสู้" หลังขาดเสาหลักอย่างคุณพ่อไป (ตอนนั้นเธออายุได้ 14 ปี)
คล้ายๆ กันกับหนังเรื่อง "หงส์หามเต่า" ผลงานการแสดงเรื่องแรกที่รับบทเป็น "หงส์" หญิงสาวผู้มีเป้าหมายอยากไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ตัดสินใจทิ้งความฝันเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และคอยช่วยเหลือผู้ป่วยที่พิการทางสมอง
แม้ชีวิตจริงอาจไม่ต้องรับบทหนักเหมือนในหนัง แต่หลังจากได้ฟังเรื่องราวต่อจากนี้ก็ถือได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่น่าชื่นชม เพราะต้องดิ้นรนด้วยแรงกาย แรงใจของตัวเอง "แม่สอนน้ำมาตลอดว่าอยากได้อะไรก็ต้องทำงาน หาเงินซื้อเอง" เธอบอก ก่อนขยายความให้ฟังต่อไป
ลูกน้ำในวัยสาวน้อย
"หลังจากคุณพ่อเสีย ครอบครัวเราก็เดี้ยงทันที ฐานะทางครอบครัวก็แย่ลง แม่ต้องเอาที่ดินไปขายเพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาเลี้ยงดูลูกๆ แล้วก็หาเลี้ยงชีพด้วยการขายอาหาร ทำร้านเสริมสวย ส่วนน้องชายยังเด็กมาก ซึ่งชีวิตตอนนั้นมีใช้บ้าง ไม่มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับอดมื้อกินมื้อนะคะ (ยิ้ม)
พอน้ำอายุเข้า 16 ปี ก็มีงานถ่ายปฏิทินเข้ามา โดยการชักชวนของบริษัทแถวบ้านที่ทำปฏิทินขาย เพราะเขาเห็นครอบครัวน้ำแล้วสงสาร พูดแล้วก็จะร้องไห้ (น้ำเสียงสั่นเครือ มีประกายใสในแววตาคู่สวย) กระทั่งอายุ 18 ปี น้ำเข้าประกวดเวทีมิสลาว ปี 2011"
อย่างไรก็ดี เธอเล่าให้ฟังด้วยว่า ก่อนจะมาประกวดเวทีนี้ มีผู้ชักชวนอยู่หลายครั้ง แต่เพราะความไม่พร้อมในหลายๆ เรื่องจึงปฏิเสธไป "เรายังเด็กไปค่ะ" เธอบอก "ยังพูดไม่ค่อยเก่ง แถมโก๊ะๆ นิสัยเหมือนผู้ชาย เพราะพ่อเลี้ยงน้ำมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเรื่องนางงามสำหรับน้ำมันเป็นอะไรที่ไกลตัวมากๆ สุดท้ายก็ลองตัดสินใจไปดู พอไปถึงนะ คนสวยเต็มเลยค่ะ ในขณะที่น้ำใส่รองเท้าผ้าใบ หน้าก็ไม่แต่ง วาดแต่คิ้ว ส่วนผมก็เพิ่งสระ
ตอนนั้นคิดในใจ กลับทันมั้ยเนี่ย (หัวเราะ) จนทีมงานโทร.มาบอกว่าเข้ารอบนะ หูย! ตกใจมากค่ะ (เอามือทาบอก) จากนั้นก็เข้าสู่รอบลึกๆ และคว้าตำแหน่งมาครอง ชีวิตน้ำ และครอบครัวก็เปลี่ยนไปเลยค่ะ มีงาน มีเงินเข้ามา ซึ่งน้ำเอาให้คุณแม่ไว้กิน ไว้ใช้ และส่งน้องเรียนหนังสือ"
ภารกิจ "มิสลาว" ทำอะไรบ้าง?
แน่นอนว่า เมื่อพูดถึง "มิสลาว" หลายคนคงอยากรู้ว่าหลังได้รับตำแหน่งแล้วต้องปฏิบัติหน้าที่อะไรบ้าง แตกต่างจากนางงามประเทศไทยหรือไม่
"ส่วนมากมิสลาวจะทำงานการกุศลค่ะ ทั้งช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือเด็ก นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรม นำเอาเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของลาวไปเดินในรันเวย์ต่างประเทศ อย่างที่เคยไปมาก็มีเกาหลี จีน เวียดนาม และไทย โดยประเทศที่ให้ความสนใจมากๆ คือเกาหลีค่ะ เขาไม่เคยเห็นชุดผ้าซิ่นดีไซน์สวยๆ มาก่อน ไม่แปลกที่จะมีคนเข้ารุมถ่ายรูปเต็มไปหมด ส่วนชาวจีนก็แบบงงๆ ค่ะ"
"ที่ประเทศลาวจะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมมาก" เธอย้ำ "อย่างเวลาแขกบ้านแขกเมืองมาเยือนจะให้สาวลาว หรือนางงามเดินแบบใส่ชุดลาวให้ชมกัน" พูดจบก็เล่าถึงวงการนางงามในประเทศลาวตอนนี้ ซึ่งเธอบอกว่าค่อนข้างฮือฮามากทีเดียว เพราะในปี 2017 นับเป็นครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์ของเวทีนางงามลาวสู่เวทีระดับโลก
"มิสแกรนด์ลาวเริ่มเข้ามาแล้วค่ะ ซึ่งจะคัดเลือกลาวสาวไปประกวด Miss Grand International 2017 ที่เวียดนามในเดือนตุลาคมปีนี้" อดีตมิสลาวปี 2011 เล่า ก่อนจะเผยถึงข้อปัญหาเรื่องชุดว่ายน้ำให้ฟังว่า "การประกวดในประเทศคงต้องตัดชุดว่ายน้ำออกไป และใส่ชุดในแบบของเรา ซึ่งจะมีชุดออกแนวกีฬาหน่อยๆ"
ด้านผู้จัดการส่วนตัวของ "ลูกน้ำ" ที่นั่งอยู่ข้างๆ เสริมขึ้นมาว่า "เมื่อก่อนในทีวี ต่างหูก็ใส่ไม่ได้นะ อย่างครั้งหนึ่งเคยมีเอ็มวี และนักแสดงใส่ต่างหู รัฐบาลบล็อกไม่ให้เผยแพร่ทันที และเพลงนั้นก็ไม่ได้เกิดอีกเลย แต่ทุกวันนี้เริ่มได้แล้ว ทั้งสีผม ต่างหู"
บันเทิงลาว ฮอตสุดต้องนี่เลย
"เปรียบเทียบหน้า ดูวิวัฒนาการความสวยของดารา ไอดอล" คือข่าวบันเทิงในประเทศลาวที่คล้ายๆ กันกับประเทศไทย "มีเกาะดรามาบ้าง แต่ไม่แรงเท่าไทยค่ะ (หัวเราะ)" ลูกน้ำเอ่ยขึ้น "ส่วนใหญ่จะเอาหน้าเก่า หน้าใหม่มาเทียบให้ดูกัน ประมาณว่า Before After เพราะหลายคน ก่อนเข้าวงการไม่ค่อยได้แต่งหน้า แต่พอเข้าวงการก็เริ่มแต่งตัว แต่งหน้าซึ่งดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา คนก็เลยเอาภาพมาจับผิดกัน
ส่วนตัวน้ำก็โดนเหมือนกันค่ะ (ยิ้ม) เอาภาพเก่าๆ ซึ่งนานมาก (ลากเสียงยาว) มาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบัน ซึ่งก็ต่างไปมากจริงๆ ค่ะ (ยิ้มเขิน)" พูดจบก็ยอมรับแต่โดยดีว่า "มีเสริม มีแต่งบ้าง เช่น จมูกก็เสริมให้ดูโด่งขึ้นมานิดหน่อย นอกนั้นก็มีฉีดโบท๊อกซ์ค่ะ ซึ่งตรงนี้ถูกกระแสตีกลับพอสมควร บอกว่าเราไปทุบหน้ามา ซึ่งน้ำมองว่า คนเรามีโอกาสพัฒนา และเปลี่ยนแปลงให้ดูดีขึ้นได้"
อีกหนึ่งเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของชาวลาว นอกจากชุดที่วาบหวิวแล้ว "ภาษาลาว" คือเสน่ห์ที่ต้องอนุรักษ์ และให้ความสำคัญ "คนดัง หรือดาราที่มาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการต่างๆ อย่างในประเทศไทย ต้องพูดภาษาลาวเท่านั้น เคยมีนายแบบลาวที่มาออกรายการในไทยแล้วไม่พูดภาษาลาว งานนี้ก็เลยถูกดราม่าถล่มเละกันไป ซึ่งดารา ไอดอลของลาวส่วนมากจะรู้ดีในเรื่องนี้"
ปัจจุบัน "ลูกน้ำ" ถือเป็นดารา นางแบบที่มีงาน และอีเวนต์มากที่สุดในประเทศลาว รวมไปถึงพรีเซ็นเตอร์สินค้าอีกหลายตัว (อ้างอิงจากคำพูดของผู้จัดการส่วนตัว และดูความฮอตจากในอินสตาแกรม) เช่นเดียวกับผลงานในไทยที่ตอนนี้มุ่งมั่นเรียนการแสดงเพื่อพัฒนาตัวเอง และกำลังจะมีผลงานหนังของไทยในอนาคต ซึ่งบอกได้แค่ว่าเป็นผลงานของผู้จัดสาวคมเข้มที่ใครหลายคนรู้จักกันดี
นางเอกของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ"
สำหรับ "ลูกน้ำ" ก่อนจะมาเล่นหนังเรื่อง "หงส์หามเต่า" ที่คนลาวแห่ชมกันมาก และเข้าฉายในจังหวัดภาคอีสานของไทยตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เธอเคยเป็นนางเอกในเอ็มวี "เวลาเดียวกัน" ของนักร้องซุป’ตาร์หนุ่ม "ฟิล์ม รัฐภูมิ" แถมยังเล่นคู่กันจนเกิดกระแสข่าวว่ากิ๊กกั๊กกันด้วย
"ตอนอยู่ที่ลาวก็เล่นหลายเอ็มวีค่ะ แต่กับพี่ฟิล์มเป็นเอ็มวีของไทยชิ้นแรกเลย ตื่นเต้นมากๆ ได้เห็นการทำงานที่แตกต่างกันมาก (ลากเสียงยาว) ทำให้เราเรียนรู้ และปรับตัวได้ดีขึ้น ซึ่งทางค่ายอาร์เอสติดต่อน้ำมาก่อนค่ะ เขาอยากโปรโมตทางฝั่งลาวด้วย พอเรียกเราไปแคสติ้งก็ตรงสเปกนางเอกที่เขาต้องการหมดเลย ส่วนตัวรู้สึกชอบมากๆ ค่ะ เป็นเอ็มวีที่น่ารักดี พี่ฟิล์มก็เก่งมากๆ คอยช่วย คอยสอนเราตลอด อีกอย่างที่ประทับใจก็คือ กินง่ายอยู่ง่ายค่ะ ซึ่งหาได้ยากนะคะ
ส่วนกระแสข่าวกิ๊กกันนั้น ไม่มีอะไรค่ะ น้ำกับพี่ฟิล์มเราสองคนเป็นพี่น้องกันค่ะ ซึ่งน้ำประทับใจพี่เขาตั้งแต่เล่นหนังเรื่องรักจังแล้ว น้ำเห็นเขาในทีวีแล้วกรี๊ดมาก (เขินและหน้าแดงหนักมาก) พอเจอกันครั้งแรก พี่ฟิล์มก็ทักเราขึ้นมาก่อน สวัสดีครับ ส่วนน้ำก็เกร็งๆ ค่ะ (ยิ้มเขิน)"
"บ้าน" ฝันที่ใกล้เป็นจริง
"ใกล้จะเป็นความจริงแล้วค่ะ" ซุป'ตาร์สาวเอ่ยขึ้นด้วยความภูมิใจถึงบ้านหลังใหญ่ที่เก็บเงินสร้างจากน้ำพักน้ำแรงเพื่อให้แม่กับน้องได้อยู่อย่างสุขสบาย โดยเธอให้เหตุผลถึงการตัดสินใจสร้างบ้านหลังนี้ว่า "บ้านที่น้ำอยู่ ไม่ใช่บ้านของเราจริงๆ เป็นบ้านที่เช่ารัฐบาลอยู่ ไม่รู้ว่าจะถูกไล่ออกตอนไหน ถ้าเขาจะเอาที่ เราก็ต้องย้ายออกภายใน 6 เดือน ตอนนั้นอยู่กันแบบระแวง เดี๋ยววันนี้มีข่าวว่าจะไล่ที่นะ เดี๋ยวมีข่าวว่าจะต้องย้ายนะ น้ำก็เลยทำงาน เก็บเงินสร้างบ้านของเราเองดีกว่า
ปัจจุบันน้ำพยายามทำให้คุณแม่รู้สึกว่าเขายังเป็นเสาหลัก ให้มีส่วนร่วมในการดูแลลูก เพราะเคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทุกอย่างต้องมาเอาจากน้ำ แล้วน้ำก็รู้สึกเหมือนท่านจะเสียความมั่นใจ ดังนั้นตอนนี้ทำงานได้เงินมาก็จะแบ่งไว้ใช้ และส่งให้แม่ได้บริหารจัดการ ซึ่งเราจะไม่ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร เพราะน้ำรู้จักแม่ของน้ำดี แม่น้ำไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยว ไม่ติดพนัน เราเชื่อใจแม่ได้ ตอนนี้บ้านที่ลาวใกล้เสร็จแล้วค่ะ (ยิ้มด้วยความภูมิใจ)" พูดจบก็แซวตัวเองขำๆ ว่า "จากบ้าน เริ่มบานแล้วค่ะ หมายถึงงบนะคะ บานปลายไปแล้วค่ะ (หัวเราะ)"
ส่วนอนาคตต่อจากนี้ อีกหนึ่งความตั้งใจคืออยากส่งน้องชายไปเรียนต่อต่างประเทศ เช่นเดียวกับตัวเธอที่ตอนนี้จบมหาวิทยาลัยที่ลาวแล้ว และมีความตั้งใจอยากจะบินไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่อยากไปมาก หากมีเงินสักก้อนก็คงให้น้องชายไปเรียนก่อน
4 ห้องหัวใจ มีใครจับจองหรือยัง?
มาถึงหัวข้อนี้ เชื่อว่าหนุ่มๆ คงอยากรู้ว่า สวยหวานละมุมละไมแบบนี้มีคนมาจับจองหัวใจแล้วหรือยัง "โสดมา 6 เดือนกว่าๆ แล้วค่ะ" เธอบอก "ตอนนี้ไม่ได้คุยกับใครเลยค่ะ จริงๆ นะ (เน้นเสียงให้เชื่อว่าไม่มีจริงๆ) น้ำรู้สึกว่าเราโตแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องปกปิดเรื่องแฟนเลย ถามว่าเหงาไหม ตอนแรกๆ เหงามากเลยนะ เหงาอ่ะ ไม่มีแฟน (น้ำเสียงงอแง) แต่นานๆ ไปมันก็เริ่มชิน ซึ่งการจะคบกับใคร น้ำจะเลือกคนที่เป็นแฟนเลย และใช่เลย ไม่อยากคบๆ เลิกๆ เพราะน้ำรู้สึกเหนื่อย
สำหรับคนที่ใช่สำหรับน้ำ เขาต้องเข้าใจน้ำ เข้าใจงานที่น้ำทำ น้ำเคยคบกับคนๆ หนึ่งที่ว่าน่าจะใช่แล้วนะ แต่เขากลับไม่เข้าใจงานที่น้ำทำเลย เขามักจะบอกว่า ทำไมไม่โทร.หาเลย ซึ่งน้ำก็บอกว่ากำลังทำงานอยู่ เขาก็ใส่เต็มเลย ทำไมยังไม่เสร็จ ทำไมต้องทำงานอีกละ ทำไมไม่ส่งข้อความมาบอก บางทีน้ำก็รีบ แล้วก็ลืม
คือน้ำก็บอกเขานะคะว่า เวลาน้ำให้สัมภาษณ์ หรือทำงาน น้ำจะไม่ยุ่งกับมือถือเลย เพราะเราอยากอยู่กับงาน อยากให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ตรงหน้า ส่วนแฟน เราคุยกันตอนเลิกงานได้ไหม ตอนอยู่บ้านก็ได้หรือเปล่า สุดท้ายเขาไม่เข้าใจ เราก็ไปด้วยกันไม่ได้
เอาจริงๆ นะ หลายๆ คนที่ชอบน้ำ เรารู้สึกว่าเขาไมได้ชอบน้ำที่น้ำเป็นน้ำ แต่เขาชอบที่น้ำเป็นนางงาม เป็นดารา เป็นนางแบบ ซึ่งการเป็นคนดัง หรือดารามันก็ยากเหมือนกันนะคะ (น้ำเสียงเหมือนน้อยใจชีวิต) แต่ทุกวันนี้น้ำเลือกทำงานเก็บเงินก่อน ส่วนความรักถ้ามันใช่มันก็ใช่ค่ะ"
ทุกวันนี้ความสุขของเธอคือ "หนังสือ" การมีหนังสืออยู่ในบ้าน และหยิบขึ้นมาอ่านเวลาเครียดๆ มันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ
"น้ำชอบอ่านหนังสือแนวจิตวิทยาค่ะ อย่างเล่มโปรดคือ เกิดเป็นกระต่าย ต้องคิดให้ได้อย่างหมาป่า ของ Dave Trott ซึ่งผู้เขียนยกตัวอย่างจากเรื่องจริงมาสอนให้คิดต่างจากที่เคยคิด อย่างเรื่องหนึ่ง คนถูกบีบแตรใส่มักจะคิดว่าอีกฝ่ายด่า หรืออารมณ์เสียใส่ แต่จริงๆ แล้วเขาอาจส่งสัญญาณอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือเราก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ชอบ ซึ่งเล่มนี้น้ำซื้อให้เพื่อนหลายคนอ่าน แล้วทุกคนชอบหมดเลยค่ะ
ดังนั้นถ้าเลือกระหว่างไปกินดื่มกับอ่านหนังสือ "เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่าค่ะ" เธอบอกพร้อมกับให้เหตุผลว่า "น้ำเลิกดื่ม เลิกเที่ยวมานานแล้ว ส่วนตัวอยากดูแลตัวเองด้วยคะ ปัจจุบันกินมังสวิรัติมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว หากมีเวลาว่างก็จะเล่นโยคะ ว่ายน้ำค่ะ ซึ่งน้ำชอบว่ายน้ำมากๆ"
คำสอนแม่ "อย่ายุ่งกับสามีคนอื่น"
"แม่จะบอกเสมอว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา ตั้งแต่เด็กเลยนะ แม่ไม่เคยซื้อของให้ อยากได้อะไรต้องซื้อเอง อย่างตอนอายุ 12 ปี น้ำอยากได้เสื้อผ้า หรือรองเท้าสวยๆ น้ำก็หาเงินด้วยการเอาของไปขายที่โรงเรียน ซื้อต่างหู คอนแทคเลนส์จากตลาดขายส่ง ไปขายต่อให้เพื่อนๆ
นอกจากนี้ แม่ไม่ชอบมากๆ ถ้าเราไปคบ หรือคุยกับสามีคนอื่น ซึ่งเราไม่เคยมีความคิดแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเราเคยมีปม เคยเห็นพ่อมีภรรยาน้อย (น้ำไม่ได้ว่าพ่อนะคะ น้ำแค่เล่าให้ฟัง) เพราะเราก็เห็นแม่นอนร้องไห้ทุกวัน ภาพในวันนั้นยังจำได้ไม่รู้ลืม น้ำก็เลยตั้งมั่นเลยว่า เราจะต้องไม่ทำให้คนอื่นร้องไห้เพราะเรา น้ำจะไม่เข้าไปยุ่งกับสามีคนอื่นเด็ดขาด"
ทั้งหมดนี้ คือเสน่ห์ของซุป'ตาร์สาวลาวที่นอกจากได้รู้จักตัวตน และเห็นแง่มุมความคิดอย่างแจ่มชัดแล้ว ความสวย และความน่ารักสดใสยังทำให้ผู้ร่วมสนทนาหลงเสน่ห์ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะความอ่อนหวานของใบหน้าที่หากจ้องนานๆ อาจเป็นอันตรายต่อหัวใจได้
เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร และขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @louknum_misslaos
ขอขอบคุณบทความจาก : https://m.manager.co.th/Daily/detail/9600000066877