ชาวลาวนับหมื่นๆ คน ได้อ่านข่าวและชมชมภาพถ่าย กับวิดีโอคลิป จากแขวงหัวพันในช่วงวันสองวันมานี้ ซึ่งกล่าวกันว่าทางการแขวงอันเป็นถิ่นปฏิวัติทางตอนบนสุดของประเทศ ได้อนุญาตให้บริษัทเวียดนาม เปิดกิจการดิสโกเธคขึ้นภายในถ้ำเก่าแห่งหนึ่งในเมืองเวียงไซ ที่ขบวนการปะเทดลาวเมื่อก่อน เคยใช้เป็นที่มั่นในการต่อสู้กับทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐ เป็นสถานบันเทิงที่มีหญิงสาวจากเวียดนาม เต้นโชว์นุ่งน้อยหุ่มน้อยแบบไคโยตี้ และ มีการค้าประเวณีแอบแฝงอยู่ด้วย
ชาวเน็ตลาวจำนวนมากไม่พอ ไม่สบอารมณ์ ท้วงติง ให้ทางการเมือง และ แขวงสำนึกในความถูกต้อง ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งยังไม่ปักใจเชื่อว่า ทั้งหมดจะเป็นความจริง จนกว่าจะทราบรายละเอียดต่างๆ ถึงแม้จะมีอีกจำนวนหนึ่งเข้าไปอธิบายเรื่องนี้ แสดงให้เห็นสภาพการณ์อันแท้จริงในท้องถิ่นปัจจุบัน
เรื่องนี้ถูกจุดประกายขึ้นมาจากรายงานในเว็บไซต์ Houaphantoday.Com ซึ่งได้คำถามสังคมว่า ชาวลาวพร้อมที่จะยอมรับหรือไม่ สำหรับถ้ำแห่งการต่อสู้ปลดปล่อยชาติ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นแหล่งบันเทิง คาราโอเกะ และ ดิสโกเธค ที่มีสาวจากเวียดนามไปเต้นโชว์...
เว็บไซต์ข่าวแห่งนี้กล่าวว่า เวียงไซเป็นแหล่งกำเนิดการปฏิวัติ ที่นำมาสู่การเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในวันนี้ ที่นั่นมีถ้ำใหญ่น้อยกว่า 400 แห่ง เคยเป็นแหล่งหลบซ่อน ของบรรดาผู้นำ และ เจ้าหน้าที่รวมทั้งประชาชนทั่วไป เป็นสถานที่ปฏิบัติงานและวางแผน จนกระทั่งนำไปสู่การยึดอำนาจในปลายปี 2518
"ທ່ານຄິດວ່າເໝາະສົມບໍ່ທີ່ຍືດຖືສະຖານທີແຫ່ງນີ້ເປັນບ່ອນບັນເທີ່ງມົ້ວສຸ່ມ ແທນທີຈະເອົາໄວ້ໃຫ້ຄົນລຸ້ນຫລັງໄດ້ສືກສາປະຫວັດສາດຂອງຊາດລາວທີ່ບັນພະບຸລຸດໄດ້ກອບກູ້ເອົາໃຫ້ແລ້ວນັ້ນ" ผู้ที่ใช่้ชื่อ "ຄົນຮັກບ້ານເກີດ" ซึ่งเป็นผู้รายงานข่าวสารชิ้นนี้ตั้งคำถาม
..
ราษฏรออนไลน์ผู้หนึ่งอธิบายว่า ถ้ำที่ตกเป็นข่าวแห่งนั้น เคยเป็นเพียงเล้าหมูแคบๆ ที่บริษัทจากเวียดนาม ผู้ได้รับสิทธิ์เข้าไปพัฒนาได้ทำการระเบิดหินออก ให้กว้างขึ้น และ ทำเป็นสถานบันเทิง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแขวง ซึ่งเมื่อก่อนถ้ำแห่งนี้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเนื่องจากมูลสุกร โดยไม่มีผู้ใดสนใจ จนกระทั่งบริษัทจากเพื่อนบ้านแห่งนี้เข้าไปลงทุน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามชาวเน็ตที่อ้างว่าเป็นคนในท้องถิ่น ได้โต้แย้งว่าถ้ำทุกแห่งในเมืองเวียงไซ ในช่วงสงครามปฏิวัติล้วนแต่เคยมีคนเข้าอยู่อาศัยทั้งสิ้น
อีกเสียงหนึ่งกล่าวว่า ถ้ำแห่งนี้มี่อเรียกกันหลายชื่อ ไม่เคยมีผู้ใดเข้าไปอยู่เลย ตั้งแต่สมัยสงครามปลดปล่อยประเทศ และ ในปัจจุบันก็อยู่นอกเขต อนุสรณ์สถานการปฏิวัติ ไม่เคยอยู่ในสายตาของใครๆ เลย จนกระทั่งมีบริษัทเวียดนามขอเช่าเพื่อสร้างเป็นแหล่งบันเทิง อย่างเปิดเผย ในขณะที่ "โทละโข่ง" (Tholakhong.Com) เว็บไซต์ข่าวสารภาษาลาว รายงานว่า ถึงแม้จะอยู่นอกเขตอนุสรณ์สถาน และ อยู่ห่างจากบริเวณถ้ำที่ผู้นำเคยอาศัย หลบภัยและปฏิบัติงาน แต่ก็ถือว่าอยู่ในบริเวณถ้ำของเมืองเวียงไซ เขตฐานที่มั่นของการปฏิวัติ
วิดีโอคลิปแสดงการเต้นของสาวไคโยตีจากเวียดนาม ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ข่าวแห่งนี้ มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 85,000 แชร์กันกว่า 3,000 ครั้ง ในช่วงข้ามวันมานี้ และ รายงานชิ้นนี้ก็มีชาวลาวออนไลน์ เข้าไปแสดงความคิดเห็นถกเถียงกันกว่า 1,100 กระทู้ ได้เป็นคำตอบรวมกันอีกกว่า 1,000 คำตอบ ซึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องปรกติธรรมดา สำหรับประชาคมออนไลน์เล็กๆ ในลาว
.
เปิดเธคจ้ำบ๊ะโจ่งครึ่มในถ้ำปฏิวัติเวียงไซ อิมปอร์ตน้องๆ เวียดนาม ชาวลาวเดือดปุดกระหึ่มโลกออนไลน์
"ເທັກແມ່ນເປີດໃຫ້ເຂົ້າຕັ້ງແຕ່ຫົວຄ່ຳ, ທາງໃນແມ່ນຕົບແຕ່ງ ໃສ່ໄຟແສງສີ ສະທ້ອນ. ເຂົ້າໄປຮອດທາງໃນ ກໍ່ຈະເປັນຫ້ອງໂຖງແບ່ງອອກເປັນສອງສ່ວນ ຄືສ່ວນທີ່ເປັນພະນັກທາງເທິງແລະສ່ວນນັ່ງດ້ານລຸ່ມ, ທາງກາງມີເວທີເຕັ້ນຂອງສາວໂຄໂຢຕີ,ເຊິ່ງຈະເປັນສາວຫວຽດນາມ ໂດຍສ່ວນໃຫຍ່.."
"ຊາວບ້ານຄົນໜື່ງທີ່ເຂົ້າໄປ ໃຊ້ບໍລິການເລົ່າສູ່ຟັງວ່າເປັນເທັກທີ່ມົ້ວສຸມຫຼາຍ, ມີຄົນລາວ ຄົນຫວຽດ ມາຊື້ບໍລິການທາງເພດຢູ່ຖ້ຳນີ້, ລາຄາສາວບໍລິການ ກໍ່ແລ້ວແຕ່ຜູ້ສາວທີ່ເລືອກ, ນອກຈາກສາວຫວຽດແລ້ວ ກໍ່ຍັງສັງເກດມີສາວລາວຈຳນວນໜືງຄືກັນ ເຫັນແລ້ວກໍ່ໜ້າເປັນຫ່ວງກັບບັນຫານີ້.."
เว็บไซต์ข่าวออนไลน์กล่าวว่า "ทีมงานนักข่าวสัญจร" ได้ไปสำรวจแหล่งบันเทิงแห่งนี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง พบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ผู้ที่ไปใช้บริการ ก็ยังมีพนักงานของรัฐรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก เข้าออกถ้ำแห่งนี้ ส่วนข้อมูลต่างๆ ทุกซอกทุกมุมภายในถ้ำ จะเป็นภาษาเวียดนามเกือบทั้งหมด ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เหตุใดจึงมี "กิจกรรมโสเภณี" เกิดขึ้นในเขตฐานที่มั่นปฏิวัติเช่นนี้ได้ ภาครัฐสมควรต้องเข้าไปตรวจสอบที่ไปที่มาของใบอนุญาต
โทรโข่งกล่าวอีกว่าไม่เฉพาะแต่ในเมืองเวียงไซแห่งนี้เท่านั้น ในหลายแขวงของลาว กำลังมี "ธุรกิจค้ามนุษย์ ค้าโสเภณีจากเวียดนาม จากจีนอย่างร้ายแรง" ทั้งๆ ที่ลาวเป็นประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมต่อต้านการค้ามนุษย์ ดังนั้นจึงต้องมีการปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง.
ขอขอบคุณที่มาของข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์